เหตุผลในการใช้เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก

1. คำพูดเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเราพูดอะไรออกไปแล้ว เราไม่สามารถเอาคำพูดเรากลับคืนมาได้ สิ่งเดียวที่กลับคืนมาก็คือผลที่ตามมาจากคำพูดของเรา ถ้าเราพูดไม่ดีกับเด็กเพียงครั้งเดียว เราต้องใช้ความพยายามในการใช้การสร้างวินัยเชิงบวกในการมีปฏิสัมพันธ์กับ เด็กอย่างน้อยถึง 10 ครั้งในการที่จะทำให้เด็กกลับมาเชื่อใจเราอีกครั้ง คำพูดทีเราพูดออกไปสามารถเปลี่ยนวิธีการคิดของเด็ก และเปลี่ยนความรู้สึกที่เด็กมีต่อตัวเอง และผู้อื่นได้ คำพูดที่อาจจะดูไม่สำคัญสำหรับเรา อาจจะเป็นความทรงจำที่สำคัญในชีวิตของเด็ก ๆ เลยก็ได้
2. การสร้างสัมพันธภาพที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องการที่จะใช้พลังงานของเราไปในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเด็ก ๆ การใช้เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกจะทำให้เราใช้พลังงานของเราไปในการสร้าง และรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับเด็ก ๆ มากกว่าการใช้เวลาไปกับการพยายามที่จะสร้างสัมพันธภาพกับเด็ก ๆ ใหม่อีกครั้ง เราต้องการที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับเด็ก ๆ เพราะสายใยแห่งความสัมพันธ์ที่ดีนี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะรัก และเคารพตัวเองและผู้อื่น
3. การเคารพความต้องการและความรู้สึกของเด็กเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จ การเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนเด็กด้วยความรัก และเคารพความต้องการและความรู้สึกของเด็ก จะช่วยให้เด็กเคารพตัวเอง การเคารพความต้องการและความรู้สึกของเด็ก เป็นการแสดงว่าเราเชื่อในตัวพวกเค้า ซึ่งจะช่วยทำให้พวกเค้าเชื่อใจ และไว้ใจเรา และเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าเราเคารพความต้องการและความรู้สึกของเด็ก เด็กก็จะรัก และเคารพเราด้วยเช่นกัน
4. เด็ก ๆ จะมีพฤติกรรมเดิมเมื่อพฤติกรรมนั้นใช้ได้ผล และจะไม่ทำพฤติกรรมนั้นอีกถ้าพฤติกรมนั้นใช้ไม่ได้ผล เราต้องทำให้เด็ก ๆ มั่นใจว่าพวกเค้าจะได้ความสนใจจากเราทันทีที่เค้ามีพฤติกรรมที่เหมาะสม
5. เป้าหมายของเรา คือการให้อำนาจเด็กในการควบคุมชีวิตของตัวเอง เราต้องการให้เด็ก ๆ ช่วยเหลือตัวเอง และดำเนินชีวิตของตัวเองไปในทางที่ดีให้ได้ในวันหนึ่งที่เค้าโตเป็นผู้ใหญ่ เราต้องการโน้มน้าวให้พวกเค้าเชื่อว่าพวกเค้ามีอำนาจ และมีสิทธิ์ในการตัดสินใจหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวพวกเค้าเอง เพื่อให้พวกเค้าโตขึ้นมาเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และพึ่งตนเองได้ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องสอนทักษะต่าง ๆ ที่จะทำให้เด็ก ๆ สามารถนำตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้ และช่วยฝึกฝนพวกเค้าให้มีความมั่นใจว่าพวกเค้าจะสามารเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง ได้ไม่ว่าพวกเค้าจะเผชิญกับปัญหา สิ่งท้าทาย หรือไม่ก็ตาม

คลิ๊กเพื่อเข้าสู่เวปหลัก

101ThaiKids ทางทีวี














ครูใหม่ครูหม่อมรับปริญญา

หลังจากที่ผ่านความตั้งอกตั้งใจและเพียรพยายาม กระทั่งสามารถนำเอาความรู้เกี่ยวกับ การเลี้ยงดูเด็กด้วยการสร้างวินัยเชิงบวก เข้ามาต่อยอดในประเทศไทย ครูใหม่และครูหม่อมก็สามารถคว้าปริญญามหาบัณฑิตมาจนได้







ครูทั้งสองกับรอยยิ้มที่แสนสดใส










ครอบครัวร่วมดีใจแสนอบอุ่น







อ่านบทความการเลี้ยงดูเด็กของครูใหม่ครูหม่อม คลิ๊กที่นี่

ข่าวเด่นประเด็นร้อนจาก USA

ข่าวเด่นประเด็นร้อนมาจาก Old Dominion University
ครูใหม่ครูหม่อม ดอกเตอร์หมาดๆแห่งมหาวิทยาลัย "โอล โดมิเนียน" ได้รับคำชื่นชมอย่างมากเนื่องจากเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่นำเอาความรู้เกี่ยวกับ 101's Positive Discipline หรือ การเลี้ยงดูเด็กด้วยการสร้างวินัยเชิงบวกเข้าเผยแพร่สู่ประเทศไทย ทำให้คนไทยได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการใหม่และทันสมัยนี้ ทำให้เด็กไทยไม่ด้อยโอกาสในการได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกวิธี ขณะนี้ครูหม่อมและครูใหม่ถือได้ว่าเป็นด๊อกเตอร์จากสถาบันที่มีผลงานเยี่ยมยอดจนเป็นที่กล่าวขวัญของมหาวิทยาลัย

คลิ๊กลิงค์ข่าวมหาวิทยาลัยในอเมริกา

101 วิธีการสร้างวินัยเชิงบวก

101 เทคนิค: คู่มือการสร้างวินัยเชิงบวก

101s: A Guide to Positive Discipline หรือ 101 เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก คือ 101 กลวิธีการ ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์และสังคมของเด็ก และการจัดการกับพฤติกรรมของ เด็กปฐมวัย ที่ปราศจากการใช้ความรุนแรงและการทำร้ายร่างกายและจิตใจของเด็กทุกชนิดคู่ มือ 101s: A Guide to Positive Discipline ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Dr. Katharine C.Kersey อดีตคณะบดีการศึกษาเด็กปฐมวัยที่มหาวิทยาลัย Old DominionUniversity ในประเทศสหรัฐ อเมริกา และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการ การอบรมพัฒนาวิชีพ ในเรื่องการสร้างวินัยเชิงบวกให้กับคุณครูปฐมวัย และผู้นำด้านการศึกษาเด็กปฐมวัย ในเมืองนอร์ฟอร์ก และเวอร์จิเนียร์บีช แห่งมลรัฐเวอร์จิเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา Dr. Katharine C. Kersey พัฒนาและรวบรวมกลวิธีการสร้างวินัยเชิงบวก ขึ้นมาได้ 101 วิธี จากการสั่งสมประสบการณ์ที่ คลุกคลีอยู่กับเด็ก ๆ และคร่ำหวอดอยู่ในวงการ การศึกษาเด็กปฐมวัยมากว่า 50 ปี ผสมผสานกับความแตกฉานทางด้านพฤติกรรมและจิตวิทยาของ เด็กปฐมวัย จึงทำให้เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey ได้รับการ ยอมรับและขยายในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกการสร้างวินัยเชิง บวกของ Dr. Katharine C. Kerseyได้ถูกนำไปทดลองใช้ในศูนย์สาธิตเพื่อพัฒนาเด็กเล็ก ของมหาวิทยาลัย Old Dominion University หลังจากใช้ได้ไม่นาน เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey ก็เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ปกครองและผู้นำด้านการศึกษาเด็กปฐมวัยใน เมืองนอร์ฟอร์ก และ เวอร์จิเนียร์ บีช มลรัฐเวอร์จิเนียร์ และต่อมาเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey ก็ได้ถูกนำมาเป็นมาตราฐานในการคัดเลือกคุณครูปฐมวัยเข้าทำงาน และเป็นมาตราฐาน ในการรับรองคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในในมลรัฐเวอร์จิเนียร์ นอกจากนี้เทคนิคการสร้างวินัย เชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey ยังได้รับการยอมรับและนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ให้คุณครูปฐมวัยในมลรัฐแคลลิฟอร์เนียร์ได้ใช้ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและ โรงเรียนปฐม หลังจาก มลรัฐแคลลิฟอร์เนียร์ ประกาศว่า การตีและการทำโทษเด็กทางร่างกายนั้นผิดกฏหมาย
ในปี 2008 เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey ได้ถูกนำมาวิจัยในสหรัฐอเมริกาและพบว่า เด็กที่อยู่ ในห้องเรียนที่คุณครูใช้ 101s: A Guide to Positive Discipline ห้องเรียนมีความสามารถทางอารมณ์สังคมและทางวิชาการดีกว่า นักเรียนที่อยู่ในห้องเรียนที่คุณครูไม่ได้ใช้การสร้างวินัยเชิงบวก นอกจากนี้องค์กร UNESCO ยังขอความร่วมมือ จาก Dr. Katharine C. Kersey ให้คัดเลือกเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกที่มีการใช้ในห้องเรียนปฐมวัยบ่อย ครั้งจากคู่มือ 101s: A Guide to Positive Discipline มา 10 เทคนิคและนำมาแปลเป็นภาษาจีน ญี่ป่น และภาษาไทย เพื่อนำเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกเหล่านี้ไปแนะนำแก่ประเทศ ที่นิยมการใช้วิธีการสร้างวินัยเชิงลบและการตีในการปลูกฝังวินัยให้เด็ก ปัจจุบันเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกของ Dr. Katharine C. Kersey เริ่มมีการใช้ในห้องเรียนเด็กปฐมวัยและเริ่มได้รับความยอมรับว่าเป็นเทคนิค ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างวินัยให้กับเด็กปฐมวัยทั้งใน ประเทศจีนและญี่ปุ่น
เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกที่นำมาจากคู่มือ 101s: A Guide to Positive Discipline ของ Dr. Katharine C. Kersey แบ่งออกเป็น 2 ประเภท เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกประเภทแรกเป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับการสร้าง บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตรในห้อง เรียน เพื่อให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในห้องเรียนมีความรู้สึกปลอดภัยและเชื่อมั่นในตัวคุณครูว่าคุณครูจะ สามารถปกป้องดูแล และตอบสนองความต้อง การของเขาได้ เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกจำพวกนี้จะช่วยคุณครูในการสร้างสัมพันธภาพที่ดี กับเด็ก ๆ ในห้องเรียนซึ่งจะมีผลช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาความสามารถทางอารมณ์และสังคมในด้านความั่นใจในตัวเอง ความมั่นคงทางอารมณ์ ความห่วงใยความรู้สึกผู้อื่น ความมีน้ำใจ การมี สมาธิในการเรียน การให้ความร่วมมือ และการกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกประเภทที่สองเป็นเทคนิคที่ใช้สำหรับ การป้องกันและจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็ก เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกในประเภทที่สองนี้จะช่วยให้คุณครูสามารถคาด การณ์และหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็กก่อนที่จะเกิดขึ้นได้ และช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมของเด็กโดยการเสริมสร้าง พฤติกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็ก ๆ รวมถึงการรู้วิธีการสนับสนุนพฤติกรรมที่เหมาะสมของเด็กๆซึ่งมีผลช่วยในการ พัฒนาความสามารถทาง อารมณ์และสังคมของเด็กในด้านการมีวินัยในตัวเอง ความรับผิดชอบ การเคารพในสิธิของผู้อื่น การควบคุมอารมณ์ การแบ่งปัน การแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าและการตัดสินใจ ซึ่งความสามารถทางอารมณ์และสังคมเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำเด็ก ๆ ไปสู่ความสำเร็จในโรงเรียน ในหน้าที่การงานและในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข
งานวิจัยในสรัฐอเมริกาพบว่าความสามารถทางอารมณ์และสังคมของเด็กมีผลกระทบโดย ตรงต่อความสามารถทางวิชาการ และ งานวิจัยในสหรัฐอเมริกายังยืนอีกว่าเด็ก ๆ ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความสามารถทางอารมณ์และสังคม แต่แท้จริงแล้วเด็กๆ ต้องการความรัก ความเอาใจใส่และการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ในการพัฒนาความสามารถทางอารมณ์และสังคมของพวกเค้า เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกจากคู่มือ 101s: A Guide to Positive Discipline ของ Dr. Katharine C. Kersey ตั้งอยู่บนพื้นฐานของงานวิจัย เพื่อรับรองว่าคุณครู ปฐมวัยที่นำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้จะสามารถมอบสิ่งที่เด็กต้องการในการพัฒนาของ พวกเค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวปนัดดา ธนเศรษฐกร

นักศึกษาระดับปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัย Old Dominion University, Norfolk, USA.

คลิ๊กเพื่อดูเวปไซด์ของเรา